ลองหาวิธีถ่ายรูปมุมมองใหม่ๆ สนุกๆ

ต้องยอมรับว่าสมัยนี้ การถ่ายรูปเป็นอะไรที่ง่ายกว่าสมัยก่อนเยอะมาก เพราะเรามี Smartphoneที่สามารถหยิบขึ้นมาถ่ายรูปในที่ต่างๆ ได้ทันที รูปสวยคมชัด และสามารถ Upload แชร์ให้เพื่อนๆได้ดูทันทีอีกเช่นกัน ซึ่งแต่ละคนก็มีสไตล์ และมีความคิดสร้างสรรค์ในการถ่ายรูปแตกต่างกันไป บางคนชอบถ่ายรูปตัวเอง บางคนชอบถ่ายรูป ต้นไม้ ดอกไม้ บางคนชอบถ่ายรูปสัตว์เลี้ยง หรือบางคน ชอบถ่ายรูปอาหาร เหมือนที่เราเห็นได้ทั่วๆไปใครๆก็ถ่ายรูปกัน

วิธีถ่ายภาพให้สวยที่จะนำเสนอในวันนี้ ต้องใช้จินตนาการกันนิดนึง จะใช้หลักการของ ” มุมกล้อง ” เข้ามาใช้กัน เหมือนเวลาเราดูละคร พระเอกนางเอกจูบกัน แต่จริงๆแล้วเค้าใช้มุมกล้องช่วย ปากเค้าอาจจะไม่ได้โดนกันเลยด้วยซ้ำ เราจะเอาวิธีนี้มาใช้ดู การถ่ายรูปแนวนี้ความคิดสร้างสรรค์มีความสำคัญมาก กับสิ่งของธรรมดา หรือสถานที่ธรรมดา ที่ใครๆก็แค่มา Selfie กันแต่เราอาจจะทำให้อารมณ์ภาพเปลี่ยนไป ดูสนุกขึ้น ขึ้นอยู่กับว่าเราอยากให้รูปโดยรวมออกมาเป็นอย่างไร

มุมกล้องใหม่ในการถ่ายรูปพระอาทิตย์

ยกตัวอย่างเช่น เราเห็นพระอาทิตย์กำลงตก ก็หาอะไรไปเล่นกับพระอาทิตย์ ซึ่งน่าจะเคยเห็นรูปลักษณะนี้กันมาบ้าง อยู่ที่การครีเอท ว่าเราจะทำอะไรกับพระอาทิตย์ดี อาจจะหาตะเกียบมาคีบ มโนว่าเป็นไข่แซลมอน หรือเอานิ้วหยิบ เหมือนว่ากำลังจะหยิบพระอาทิตย์เก็บใส่กระเป๋ากลับบ้าน ตามแต่จินตนาการเลย ตรงนี้เราสามารถถ่ายรูปคนเดียวได้ คือ ใช้มือนึงถืออุปกรณ์เล่นกับพระอาทิตย์ และอีกมือนึงก็กดชัตเตอร์ถ่ายรูป ยิ่งถ้าเป็นมือถือถ่ายรูปสวย Galaxy Note4 ก็สามารถกดชัตเตอร์ได้ง่ายขึ้น โดยการใช้มือสัมผัสด้านหลังนั่นเอง

มุมกล้องถ่ายภาพกับสัตว์ใหม่ๆ

หรือถ้าเราอยากได้รูปแบบ สัตว์ประหลาดบุกโลก เรากลายเป็นคนตัวเล็ก เจอสัตว์ประหลาดตัวยักษ์ เราก็ทำได้ เช่นกัน โดยขั้นตอนแรกไปเลือกสัตว์ประหลาด ที่ต้องการมาก่อน ที่น่าจะใช้ถ่ายรูปได้ไม่ยาก อาจจะเป็นตุ๊กตา หรืออะไรที่เอามาเข้าฉากได้ แต่เพื่อความสมจริง ก็ใช้สัตว์เลี้ยงเพื่อความสมจริง เวลาสัตว์ประหลาดขยับ เปลี่ยนแอคติ้ง แต่อาจจะควบคุมยากนิดนึง และการถ่ายรูปแบบนี้ ต้องมีผู้ช่วยถ่ายรูปด้วยอีกคนนึง โดยให้ผู้ช่วยเป็นคนถ่ายรูป โดยมีวัตถุ(หรือสัตว์ประหลาด) วางอยู่หน้ากล้อง ให้ใกล้ที่สุด แล้วตัวเราเดินถอยไปด้านหลัง เพื่อทำให้ดูตัวเล็กลง ถ่ายรูปในแนวราบกับพื้น ปรับมุมมอง ให้เห็นว่า เจ้าสัตว์ประหลาด กำลังจะขย้ำเราแล้ว คนที่เป็นแบบถ่ายรูป ก็ทำเป็นเหมือนจะโดนขย้ำแล้ว กรีดร้อง ทำท่ากลัว อะไรก็ตามแต่ครีเอทเลย รับรองว่าได้รูปฮาๆแน่ๆ

มือถือถ่ายรูปสวยถ่ายภาพสัตว์สวย

หรือลองเอาสัตว์ไว้ข้างหลัง แล้วหาอะไรมาถ่ายหน้ากล้อง ให้ดูเหมือนอยู่ด้วยกัน วัตถุใหญ่กว่าสัตว์ ก็ได้อีกมุมมองนึง เช่นไอศครีมอันยักษ์ที่น้องเหมียวสนใจ หรืออะไรก็ได้ ลองหยิบมาถ่ายรูปดู ตอนนี้น่าจะมีไอเดียวิธีถ่ายภาพให้สวยกันมากขึ้นแล้วใช่ไหมล่ะ
มุมกล้องถ่ายคนสุดฮา

หรือ บางทีก็ไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์อะไรมาก แค่ให้ตัวแบบที่เราต้องการถ่ายไปยืนไกลๆ ทำท่าทางเหมือนกำลังจะหลบอะไรซักอย่าง แล้วคนถ่ายรูปก็เอานิ้วจิ้มไปที่หลัง มุมกล้องเหมือนกำลังแกล้ง จะดึงผม จี้เอว ก็แล้วแต่จินตนาการอันบรรเจิด ถ้าให้เพื่อนมัดผมตั้งๆ แล้วเราทำเป็นดึงผมเพื่อน ก็ดูฮาไปอีกแบบ แอคติ้งต้องเต็มนิดนึงแล้วภาพจะดูสนุกขึ้น

วิธีถ่ายภาพให้สวยกับมุมกล้องใหม่ๆ

นอกจากนี้ก็เอาไปครีเอทกับ อื่นๆได้ อีกมากมาย เช่นเสาไฟ อยากจะดึง จะหยิบอะไรก็ได้หมด ตอนถ่ายรูปคนอาจจะมองนิดนึง ถ้าเรามีความครีเอทสูงไปนิด แต่รับรองว่ารูปออกมา สนุก ฟิน เกินใครแน่นอน

มุมกล้องถ่ายเสาไฟเล่นๆ

การถ่ายรูป ไม่มีอะไรถูกอะไรผิด อยู่ที่เราอยากให้รูปออกมาเป็นแบบไหนยังไง ซึ่งถ้าได้ลองถ่ายรูปแนวนี้เล่นบ่อยๆ ก็อาจจะทำให้เราได้มุมมองภาพที่แปลก และสนุกขึ้นเรื่อยๆ ฉีกการถ่ายรูปแบบเดิม มาลองถ่ายรูปมุมกล้องใหม่ๆแบบนี้บ้าง ก็สนุกไม่ใช่เล่นเลยนะ ลองทำกันดูสิ

เทคนิคการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์และดอกไม้ให้สวยงาม

การถ่ายภาพทิวทัศน์นั้นโดยส่วนใหญ่จะเป็นที่นิยมกันอย่ามาก เพราะสามารถถ่ายได้ง่าย สะดวก ถ่ายได้ทุกหนทุกแห่งที่มีโอกาสผ่านไป ไม่ว่าจะเป็นทิวทัศน์ป่าเขา น้ำตก หรือทะเล เนื่องจากผู้ถ่ายภาพสามารถเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึก สำหรับการถ่ายภาพทิวทัศน์นั้นควรถ่ายขณะที่ท้องฟ้าแจ่มใส เพราะจะได้ภาพที่สวยงาม ชัดเจน ถ้าอากาศมืดครึ้มหรือฝนตก ภาพที่ได้จะมีสีทึบทำให้ขาดรายละเอียด การบันทึกความสวยงามตามธรรมชาติก็จะมีคุณค่าและความสวยงาม นอกจากนี้ควรต้องพิจารณาถึงองค์ประกอบที่ช่วยสร้างเรื่องราวโดยเลือกมุมกล้องที่แปลกตา คอยจังหวะให้มีลักษณะแสงสีที่สวยงาม สามารถสร้างบรรยากาศให้ผู้ดูเกิดอารมณ์คล้อยตามได้ อย่างเช่น ภาพที่มีหมอกตอนเช้าหรือฝนตก  บรรยากาศและแสงสีในเวลาเช้ามืดก่อนจะสว่าง หรือในตอนเย็นตอนพระอาทิตย์กำลังจะตกจะมีแสงสีที่ให้ความรุนแรงมีสีน้ำเงิน ม่วง เหลือง แสดและแดงสลับกับก้อนเมฆรูปร่างต่าง ๆ ดูสวยงามอีกด้วย การถ่ายภาพทิวทัศน์ สำหรับเลนส์ที่ใช้ในการถ่ายภาพทิวทัศน์ นอกจากเลนส์ธรรมดาติดกล้องแล้วควรมีเลนส์มุมกว้างและเลนส์ถ่ายภาพไกลที่มีขนาดความยาวโฟกัสประมาณ 105 มม. เพื่อช่วยให้ได้ภาพที่มีมุมแปลกตาดีขึ้น ในส่วนของการถ่ายภาพสีก็ควรมีแผ่นกรองแสงตัดหมอกหรือแผ่นกรองแสงโพลาไรซ์ไว้ด้วย หรืออาจจะใช้แผ่นกรองแสงสำหรับเปลี่ยนแปลงสีของภาพเพื่อให้ได้ภาพทิวทัศน์ที่มีสีสันสวยงามแปลกตายิ่งขึ้น สำหรับการถ่ายภาพดอกไม้นั้นจำเป็นจะต้องต้องตั้งเลนส์มาโครเพราะสามารถโฟกัสได้ในระยะใกล้ๆ และ สามารถซูมขยายได้เพียงพอเนื่องจากดอกไม้มีขนาดเล็ก จึงจะทำให้เก็บรายละเอียดของดอกไม้และสีสันได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น

จะเห็นได้ว่า ปัจจุบันมีคนหันมาเล่นกล้องเยอะมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกล้องคอมแพค กล้อง DSLR หรือกล้อง GoPro ซึ่งต่างก็อยากได้ภาพสวย ๆ งาม ๆ เก็บไว้เป็นความทรงจำทั้งนั้น ดังนั้น การนำเทคนิคต่างๆเหล่านี้มาใช้ก็จะสามารถช่วยในการถ่ายรูปได้ไม่ว่าจะเป็นวิวทิวทัศน์หรือดอกไม้และสิ่งของอื่นๆให้สวยงามได้เช่นเดียวกัน

เทคนิคการถ่ายภาพด้วยกล้องมือถืออย่างมือโปร

ปัจจุบันนี้กล้องมือถือได้เข้ามาปฎิวัติวงการถ่ายภาพเป็นอย่างมาก เนื่องจากเมื่อก่อนการถ่ายภาพนั้นจะเป็นผู้ที่สนใจหรือมือโปรเท่านั้น  เพราะนอกจากต้องมีกล้องเป็นของตัวเองแล้วยังต้องพกกล้องตัวนั้นไปไหนมาไหนอยู่ตลอดเวลา แต่ปัจจุบันกล้องมือถือได้รับการพัฒนาขึ้นมาจนถึงขั้นใช้งานได้ดีทำให้เสมือนว่าเรากำลังพกกล้องไปทุกที่ทุกเวลา

สำหรับเทคนิคการถ่ายภาพด้วยกล้องมือถืออย่างมือโปรมีด้วยกันดังนี้

1.หันหน้าเข้าหาดวงอาทิตย์และปรับโหมดเป็น HDR เพราะจะแก้ปัญหาหน้ามืดเมื่อหันกล้องเข้าหาดวงอาทิตย์ได้ระดับหนึ่งทีเดียว แต่ถ้าจะให้ได้ผลดีที่สุดให้รอช่วงที่พระอาทิตย์กำลังจะตก จะทำให้เราสามารถเก็บภาพที่มีรายละเอียดแสงสีที่สวยงามได้

2.ถ่ายช่วงเวลาทอง โดยไปถ่ายช่วงเวลาก่อนที่พระอาทิตย์จะตกดิน เพราะภาพที่ได้จะออกโทนเหลือง ๆ แดง ๆซึ่งจะได้ภาพที่สวยงามลงตัว

3.ถ่ายช่วงทไวไลท์ คือ ช่วงเวลาหลังพระอาทิตย์ตกหรือก่อนพระอาทิตย์ขึ้นซักพักนึง เพราะท้องฟ้าในรูปมันจะเป็นสีฟ้า น้ำเงินสดใส ฉะนั้นถ้าอยากถ่ายไฟเมืองแบบสวย ๆตกรอหลังพระอาทิตย์ตกก็จะได้ภาพน่าประทับใจอย่างแน่นอน

4.หาเนื้อหาเด่นของภาพ โดยเปลี่ยนมาหาจุดเด่นในภาพดีกว่านอกจากจะทำให้ภาพดูน่าสนใจแล้ว ยังสามารถบ่งบอกสถานที่ที่เราไปเยือนได้ดีกว่าอีกด้วย

5.เก็บเรื่องราว เช่น เก็บภาพคนและสัตว์ด้วยมือถือนั้นดูเป็นมิตรมากกว่าการแบกกล้องใหญ่ ๆ เข้าไปถ่าย แต่การถ่ายภาพบุคคลแบบใกล้ชิดและดูจงใจก็ควรจะขออนุญาตก่อนทุกครั้ง

6.มือต้องนิ่ง โดยเริ่มจากลองกลั้นหายใจตอนจะกดถ่ายดูก่อนหรือใช้ขาตั้งเล็ก ๆและตั้งเวลาถ่ายเอา

7.ฝึกจัดองค์ประกอบแบบง่าย ๆ ใช้เส้นแนวตั้งหรือนอน 3เส้นและพยายามจัดองค์ประกอบให้อยู่ในเส้นเหล่านี้ ซึ่งพอเราใช้ทั้งเส้นแนวนอนและตั้งตีลงไปในรูปก็จะทำให้ภาพสวยขึ้นง่าย ๆ

8.พื้นอย่าเอียง ต้องดูเป็นอันดับแรกว่าภาพตรงหรือเปล่าโดยพยายามถ่ายออกมาให้ภาพตรง พื้นตรง เพราะจะทำให้ภาพดูดีขึ้นมามากเลยเชียว

9.ใช้ APPเข้ามาช่วย โดยการปรับหลาย ๆอย่างที่ควรเก็บไว้ประจำเครื่อง

10.เรียนรู้มือถือให้หมดทุกด้าน ไม่ว่าจะความละเอียดเท่าไหร่ ถ่ายแบบไหนได้บ้าง ซูมแล้วภาพแตกไหม ถ่ายในที่มืดดีหรือเปล่า สิ่งเหล่านี้เป็นทั้งข้อจำกัดและตัวสร้างไอเดียใหม่ ๆ ในการถ่ายภาพได้

ศิลปะการถ่ายภาพแนวย้อนแสงเชิงสร้างสรรค์

Silhouettes-1
ปัจจุบันเทคนิคการถ่ายภาพย้อนแสงก็ถูกช่างภาพนำมาใช้บ่อยครั้งทั้งที่เห็นเป็นโครงสร้างเงามืด และการใช้แสงแฟลร์สร้างเอฟเฟ็กซ์ให้เกิดมิติภาพ แม้จะมีบางส่วนสูญเสียสีสันและคอนทราสต์ของภาพไปบ้างก็ตาม อีกแวดวงที่ใช้แสงจากธรรมชาติบ่อยจนชินตาก็เป็นการถ่ายภาพทิวทัศน์ด้วยแสงอาทิตย์และแสงจันทร์ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพแนวไหนเอฟเฟ็กซ์ที่ผู้คนชื่นชอบและนำไปใช้สร้างสรรค์ภาพกันอย่างแพร่หลาย คือ แสงที่ไล้ไปตามผิวของวัตถุที่เรียกกันว่า Rim Light และแสงแดดที่สะท้อนเข้าหน้าเลนส์จนเกิดเป็นประกายเรียกว่า Star Light

การถ่ายภาพวัตถุย้อนแสง เมื่อวัตถุกับฉากหลังนั้นมีความแตกต่างของแสงมากและความสามารถของกล้องที่ไม่อาจเก็บรายละเอียดเท่ากับสายตาของคน วัตถุที่ถ่ายจึงมืดและเป็นเงาดำ คุณสมบัติที่ว่ามาทำให้เราสามารถถ่ายรูปเชิงสร้างสรรค์ได้หลายรูปแบบ การถ่ายภาพย้อนแสงหรือภาพเงาดำ ภาพประเภทนี้นักถ่ายภาพสมัครเล่นไม่ค่อยให้ความสนใจ เพราะจะได้ภาพที่ไม่ชัด ไม่เห็นรายละเอียดของวัตถุ ถ้าถ่ายภาพคนจะมองดูแล้วมืด แต่ที่จริงแล้วภาพย้อนแสงไม่ว่าจะเป็นภาพสีหรือขาวดำก็ตามจะช่วยให้เราเรียนรู้เรื่องรูปร่างของวัตถุที่บังแสงอยู่ นักถ่ายภาพอาชีพมักจะเสาะแสวงหาภาพประเภทนี้อยู่เสมอ เพราะภาพย้อนแสงจะให้ทั้งความงามให้อารมณ์ ให้สีสันรุนแรง ให้ความแปลกตาไปอีกลักษณะหนึ่ง

เทคนิคการถ่ายภาพย้อนแสง

1.รูปแบบการถ่ายภาพย้อนแสงแบบเงาดำ คือการบันทึกแสงโดยให้ฉากหลังมีปริมาณแสงที่สว่างพอดี แต่ให้ตัวแบบมีแสงน้อยที่สุดเพื่อให้กลายเป็นรูปทรงเงาดำ หรือการถ่ายภาพแบบย้อนแสงนั่นเอง
2.เทคนิคการถ่ายภาพย้อนแสงเงาดำ เป็นอีกเทคนิคหนึ่งที่ใช้สร้างสรรค์ภาพได้อย่างน่าสนใจ จุดเด่นของภาพแบบนี้คือเราจะเห็นรูปร่างภายนอกของวัตถุที่บังแสงอยู่ไม่เห็นรายละเอียดของวัตถุ
3.อุปกรณ์ที่ใช้ในการถ่ายภาพย้อนแสงเงาดำ โดยกล้อง DSLR ทุกตัวสามารถใช้ถ่ายภาพชนิดนี้ได้โดยพื้นฐานอยู่แล้ว จุดสำคัญ คือการปรับตั้งค่าการเปิดรับแสงที่ถูกต้องโดยการเลือกใช้โหมดในการบันทึกภาพที่เหมาะสม
4.การควบคุมค่า Speed shutter ในการถ่ายภาพย้อนแสง จะขึ้นอยู่กับปริมาณแสงในขณะนั้น แต่สิ่งที่ควรคำนึงถึงคือ Speed shutter จะต่ำเกินไปจนถือกล้องด้วยมือเปล่าไม่ได้
5.การควบคุมค่ารูรับแสงในการถ่ายภาพย้อนแสง เป็นเรื่องของการควบคุมระยะชัด ยิ่งรูรับแสงแคบ ระยะชัดก็จะยิ่งครอบคลุมเป็นระยะที่กว้างมากขึ้น
6.การควบคุมค่า ISO ในการถ่ายภาพย้อนแสง ค่าความไวแสงก็ไม่มีกำหนดตายตัว คุณอาจจะเลือกใช้ค่าความไวแสงมากขึ้นหากแสงมีปริมาณน้อยลง หรือใช้ค่าความไวแสงต่ำหากมีปริมาณแสงมาก
7.ขั้นตอนและวิธีการถ่ายภาพแบบย้อนแสง ตามหลักการที่เราต้องเปิดรับแสงฉากหลังให้พอดี ดังนั้นเราต้องวัดปริมาณแสงที่ฉากหลัง

บทบาทของคอมพิวเตอร์ในการใช้ชีวิตการทำงานถ่ายรูปในปัจจุบัน

5

คอมพิวเตอร์เริ่มมีบทบาทในการใช้ชีวิตการทำงานและเป็นช่วงที่กล้องดิจิทัลถือกำเนิดขึ้นมา แต่ในสมัยนั้นกล้องดิจิทัลมีราคาที่แพงมากและค่าความละเอียดของภาพต่ำช่างภาพในยุคนั้นจึงไม่ยอมรับทำให้มีผู้ใช้จำนวนจำกัดอยู่แต่ในวงแคบๆ ต่อมาเมื่อเทคโนโลยีของกล้องดิจิทัลได้มีการพัฒนาขึ้นและราคาถูกลงมากกล้องฟิล์มจึงได้รับความนิยมน้อยลงแต่ก็ยังมีใช้อยู่ในปัจจุบัน ด้วยสาเหตุนี้จึงทำให้การศึกษาทางด้านถ่ายภาพในปัจจุบันสมารถเรียนรู้ได้ง่ายขึ้น ทำไมนักออกแบบที่ดีถึงต้องเรียนถ่ายภาพ เนื่องจากการถ่ายภาพเป็นศาสตร์ที่ว่าด้วยการสื่อสารเล่าเรื่องราว อารมณ์และความรู้สึกด้วยภาพ ผ่านทางกล้องถ่ายรูปในมุมภาพที่แตกต่างกัน รวมถึง แสง เงา และความเข้าใจเรื่องการจัดแสงในสตูดิโอที่มีลักษณะเฉพาะ

สำหรับการทำงานด้านการผลิตแอนิเมชันแล้วความสามารถในการอธิบายภาพที่จะนำเสนอในแอนิเมชันและถ่ายทอดความรู้สึกของอารมณ์นั้นๆผ่านการเล่าเรื่องด้วยมุมกล้อง สี แสง และเงา ซึ่งใช้หลักการเดียวกันกับการเรียนถ่ายภาพ ก็เป็นทักษะส่วนหนึ่งที่สำคัญของการทำงาน นอกจากนี้ซอฟท์แวร์ที่ใช้ในการทำงานด้านแอนิเมชัน 3 มิติในปัจจุบัน เช่น  Autodesk Maya, Autodesk 3ds Max,  LightWave 3D ก็จะมีการใช้กล้องและการจัดแสงแบบ 3 มิติที่มีพื้นฐานเดียวกันกับการถ่ายภาพด้วยกล้องจริงที่ต้องนำความรู้ด้านการถ่ายภาพไปประยุกต์ใช้

ส่วนงานทางด้านการผลิตสื่อปฏิสัมพันธ์ ก็เช่นเดียวกับที่นักออกแบบหลายๆคนคงสงสัยว่าการถ่ายภาพมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรกับสายงานนี้ คำตอบคืองานออกแบบทางด้านกราฟิกรวมทั้งการออกแบบเว็บไซต์และสื่อปฏิสัมพันธ์ ต้องใช้ความรู้ด้านจัดองค์ประกอบภาพมาใช้ในการทำงานออกแบบจัดวางรูปภาพหรือกราฟิกต่างๆเข้าด้วยกันเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งการมีพื้นฐานการถ่ายภาพที่ดีย่อมทำให้มีมุมมองในการจัดวางภาพที่สวยงามน่าสนใจ ดังนั้นนักออกแบบกราฟิกที่ดีจึงควรรู้หลักพื้นฐานในการถ่ายภาพเพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการประกอบวิชาชีพ